ดอกสว่านเจาะกระเบื้อง CYL-9 SoftCeramic

ก้านหกเหลี่ยมมีประโยชน์หลายประการกว่าก้าน CYL แม้ว่าก้านทั้งสองประเภทจะเข้ากับหัวจับสว่านสามขามาตรฐานได้ แต่ก้านหกเหลี่ยมเชื่อมต่อได้อย่างปลอดภัยกว่า เนื่องจากรูปทรงทำให้ไม่ลื่นไถลในหัวจับ ก้านหกเหลี่ยมช่วยให้มั่นใจได้ถึงการถ่ายโอนกำลังสูงสุดจากเครื่องของคุณไปยังดอกสว่าน ก้านหกเหลี่ยมยังช่วยให้คุณมีความยืดหยุ่นมากขึ้นเมื่อเลือกเครื่องมือ คุณสามารถใช้กับสว่านมาตรฐานที่มีหัวจับสามขา รวมถึงสว่านกระแทกที่มีที่จับเครื่องมือหกเหลี่ยมด้านในขนาด ¼" ก้าน 3 ปีกของดอกสว่าน CYL-5 ของเราใช้ได้กับหัวจับสามขาเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์คล้ายกับก้านหกเหลี่ยม พอดีกับหัวจับอย่างแน่นหนา ไม่ลื่นไถล และรับประกันการถ่ายโอนกำลังสูงสุดจากเครื่องของคุณไปยังดอกสว่าน

CYL-9 SoftCeramic เหมาะสำหรับกระเบื้องเซรามิกเนื้ออ่อนและกระจกที่ไม่ใช่เทมเปอร์ HEX-9 HardCeramic เหมาะสำหรับกระเบื้องเซรามิกเนื้ออ่อนและแข็ง กระเบื้องหิน กระเบื้องมุงหลังคา และกระจกที่ไม่ใช่เทมเปอร์ ดอกสว่านนี้ออกแบบมาเพื่อเจาะกระเบื้องที่มีความหนาไม่เกิน 10 มม. ไม่เหมาะสำหรับการเจาะบล็อก หากคุณไม่ทราบความแข็งของกระเบื้องเซรามิกที่คุณต้องการเจาะ เราแนะนำให้ใช้ดอกสว่าน HEX-9 HardCeramic เนื่องจากสามารถเจาะกระเบื้องเซรามิกทั้งแบบอ่อนและแข็งได้

จำนวนรูที่คุณสามารถเจาะได้ขึ้นอยู่กับพารามิเตอร์หลายอย่าง เช่น เส้นผ่านศูนย์กลางของดอกสว่าน แรงดันที่ใช้ระหว่างการเจาะ ทิศทางการเจาะ รวมทั้งความหนาและความแข็งของวัสดุ เมื่อทดสอบดอกสว่านขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 6 มม. เราได้ผลลัพธ์ดังต่อไปนี้ การเจาะด้วยดอกสว่าน CYL-9 SoftCeramic คาดว่าจะได้มากกว่า 50 รูในกระเบื้องเนื้ออ่อน ในขณะที่ดอกสว่าน HEX-9 HardCeramic จะช่วยให้คุณเจาะกระเบื้องเนื้ออ่อนได้มากกว่า 100 รู และมากกว่า 10 รูในกระเบื้องเนื้อแข็ง เราทำการทดสอบการเจาะด้วยมือในแนวนอน โดยใช้ GSB 18V-85 ในเกียร์ 1 และโหมดหมุนด้วยแรง 200 นิวตันลงบนกระเบื้องเซรามิกหนา 8 มม. ที่มี PEI 5

ความแข็งของกระเบื้องนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะกำหนดได้เสมอไป มาตราส่วน Mohs หรืออัตรา PEI มักใช้เพื่อระบุระดับความแข็งของวัสดุ ราคาของกระเบื้องสามารถช่วยคุณประเมินความแข็งได้ กระเบื้องเนื้อแข็งมักมีราคาสูงกว่ากระเบื้องเนื้ออ่อน ขนาดของกระเบื้องสามารถเป็นตัวบ่งชี้ได้เช่นกัน กระเบื้องขนาด 30x30 ซม. ขึ้นไปจะแข็งเป็นปกติ (มิฉะนั้น เมื่อพิจารณาจากขนาดแล้ว กระเบื้องจะแตกง่าย)

คุณควรตั้งเครื่องมือไฟฟ้าไปที่เกียร์ 1 เพื่อไม่ให้ดอกสว่านร้อนเกินไป หากคุณใช้เครื่องมือแบบมีสาย นอกจากการตั้งค่าไปที่เกียร์ 1 แล้ว คุณยังต้องควบคุมความเร็วด้วยการกดทริกเกอร์เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิน 500 รอบต่อนาที (มิฉะนั้น จะไปได้ถึง 1,000 รอบต่อนาที) หากคุณใช้เครื่องมือไร้สาย คุณไม่จำเป็นต้องควบคุมความเร็วผ่านทริกเกอร์เมื่อตั้งค่าเครื่องมือไว้ที่เกียร์ 1 เนื่องจากขีดจำกัดรอบต่ำของเครื่องมือไร้สาย หากเครื่องมือของคุณไม่มีเกียร์ ให้รักษาความเร็วรอบต่ำ (สูงสุด 500 รอบต่อนาที) โดยใช้ทริกเกอร์

ตั้งค่าเครื่องมือไฟฟ้าของคุณเป็นโหมดหมุนเท่านั้นเสมอ ห้ามใช้โหมดกระแทก เนื่องจากการใช้โหมดนี้จะทำให้ดอกสว่านและกระเบื้องเสียหายได้

ตั้งเป็นโหมดหมุน ห้ามใช้โหมดกระแทก เพราะจะทำให้ดอกสว่านและกระเบื้องเสีย ตั้งเกียร์ 1 หากใช้เครื่องมือมีสาย ตั้งเกียร์ 1 และกดทริกเกอร์ครึ่งเดียวไม่เกิน 500 rpm ส่วนเครื่องมือไร้สาย ตั้งเกียร์ 1 หากเครื่องมือไม่มีเกียร์ คงความเร็วสูงสุด 500 rpm ด้วยทริกเกอร์ อย่าใช้แรงกดมากไป (แนะนำ 15-20 กก.) จะได้ยินเสียงขูดหรือกรีดเมื่อเริ่มเจาะ แสดงว่าทำงานถูกต้อง ให้เจาะต่อไป ไม่ต้องระบายความร้อน โยกดอกสว่านเพื่อให้เจาะเร็วขึ้นและใช้ได้นานขึ้น เมื่อเจาะทะลุกระเบื้อง ให้ใช้ดอกสว่านคอนกรีตเจาะวัสดุใต้กระเบื้อง เปลี่ยนเป็นโหมดกระแทกและเกียร์ 2 ก่อนเริ่มเจาะ ดูชุด HEX-9 Hard Ceramic และ CYL-3 (2608900596) ของ Bosch เมื่อเจาะกระเบื้องแข็งเกิน 10 มม. ให้เจาะล่วงหน้าด้วยเส้นผ่านศูนย์กลางเล็กลง (6, 7 หรือ 8 มม.)

การระบายความร้อนสามารถช่วยยืดอายุการใช้งานของดอกสว่านได้หากใช้อย่างถูกวิธี แต่คุณไม่จำเป็นต้องใช้ เมื่อเจาะหินแข็ง เราแนะนำให้ปล่อยให้ดอกสว่านเย็นลงทุกครั้งที่คุณเจาะรู